วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560

Depersonalization 1

-Depersonalization-



"อ้ะ อื้อ แรง แรงอีก" เสียงร้องขอของจากคนที่กำลังร่วมรักกันอย่างบ้าคลั่ง ร่างข้างล่างกำลังสั่งในสิ่งที่ตนต้องการ ร่างข้างบนจึงเร่งความเร็วตามที่อีกคนต้องการ จนปลดปล่อยออกมาทั้งคู่ร่างข้างบนฟุบลงไปนอนบนอกของร่างที่นอนอยู่ข้างล่างอย่างเหนื่อยล้า มือเรียวของอีกคนกำลังไล้บนกลุ่มผมของอีกคนเล่นอย่างสนุกมือ ใบหน้าหล่อเหลาเรียบนิ่ง ดวงตาเรียวที่ประดับไปด้วยไฝคู่แฝดที่อยู่บนเปลือกตาข้างซ้ายอย่างลงตัว มืออีกข้างค่อยๆไล่ลงไปตามตัวของอีกคนอย่างช้าๆ ก่อนจะขยับตัวออกมาจนแก่นกายที่อยู่ในตัวถอดถอนออกมา ขาเรียวแน่นขยับตัวลงมาจากเตียง หยิบชุดคลุมมาคลุมตัวก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้างกายของตัวเอง ไม่แม้แต่จะเหลียวมองคนที่นอนอยู่บนเตียงเลยแม้แต่น้อย

   หลังจากชำระล้างเอาสิ่งสกปรกออกจากตัวหมดเรียบร้อยร่างสูงโปร่งก็เดินออกมาตรงระเบียงโดยสวมชุดคลุมสีดำสนิทไว้บนตัว มือเรียวหยิบบุหรี่ออกมาจากซองก่อนจะจุดสูบ อัดนิโคลตินเข้าปอด ก่อนจะปล่อยควันออกมาจากปากบางช้าๆทำแบบนี้จนหมดมวน พิงตัวเข้ากับประตู ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาอีกจุดแล้วน้ำเข้าปากของตนทำแบบนี้จนพอใจก่อนจะเดินเข้าไปข้างในห้องนอน มองร่างของคนที่ตนซื้อมากำลังนอนอยู่บนเตียงแล้วเดินไปหยิบชุดของตนที่เกลื่อนอยู่บนพื้นมาแล้วเปลี่ยนเป็นชุดนั้นก่อนที่จะเดินออกไป มือเรียวหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาวางไว้บนหัวเตียงแล้วเดินออกไปจากห้องนี้ทันที




   มาร์ค ต้วนกำลังหัวเสียอย่างมาก ตั้งแต่ทำธุรกิจมาเค้าไม่เคยเจอคู่ค้าคนไหนที่คุยยากขนาดนี้มาก่อน บริษัทตระกูลของเค้าทำเกี่ยวอสังหาริมทรัพย์ในใต้หวันและทำธุรกิจในต่างประเทศควบคู่กันแต่ในตอนนี้คู่ค้าธุรกิจในประเทศเกาหลีใต้ที่เค้าต้องการจะทำธุรกิจร่วมด้วยกำลังทำเค้าหัวเสียอย่างหนัก
"ไงหัวเสียเลยสิไอ้ลูกชาย"เสียงของพ่อเค้าดังขึ้นดึงเค้าให้ตื่นจากความคิดของตน ร่างท้วมใหญ่เดินมานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง
"ไง เห็นว่าคู่ค้าครั้งนี้คุยยากหรอ" มาร์คไม่ตอบแต่เลือกที่จะพยักหน้าแทนคำพูด
"ครับพ่อ ทางนั้นไม่ต้องการให้เราส่งแค่เอกสารแบบตัวอักษรไปอย่างเดียวครับ" เพราะการทำธุรกิจในต่างประเทศสิ่งที่สำคัญคือการส่งเอกสารที่ต้องการไปให้ครบ ซึ่งทางเค้าส่งไปให้ทางนั้นเรียบร้อยทั้งตัวเอกสารและข้อความในการตกลง เพื่อให้อีกฝ่ายอ่านมันก่อนที่จะคุยกันในครั้งต่อไป แต่เหมือนทางนั้นจะอยากคุยกับเค้าตั้งแต่ต้นโดยไม่ต้องการเอกสารที่ให้ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เค้าหัวเสียอย่างมาก
"เค้าอยากให้แกไปคุยตัวต่อตัวอย่างงั้นหรอ" มาร์คพยักหน้าตอบทันที พ่อของเค้าจึงเงียบไปก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้งนึง
"งั้นแกก็ไปสิ"
"แล้วบริษัทที่ใต้หวันล่ะครับพ่อ บริษัทนั้นไม่ได้สำคัญขนาดที่เราจะไปสนใจนะครับ ถ้าเค้าไม่ยอมเราก็ไม่ต้องไปทำสัญญาด้วยก็ได้นะครับ มันไม่ได้ขัดต่อผลประโยชน์ของทางเราด้วย" มาร์คอธิบายให้พ่อของเค้าฟังทันที ใช่บริษัทที่เค้าจะทำสัญญาด้วยมันไม่ได้ใหญ่จนถึงขนาดที่บริษัทของเค้าต้องลงไปทำสัญญาเลยด้วยซ้ำ แต่พ่อของเค้านี่สิรบเร้าจะให้เค้าทำให้ได้จนเค้าต้องมาปวดหัวเพราะบริษัทเล็กๆแค่นั้น
"ไม่ได้ แกต้องทำมาร์ค" มาร์คทำหน้าไม่เข้าใจทันทีที่คนเป็นให้คำตอบ ผู้นำตระกูลต้วนถึงกับต้องถอนหายใจแล้วเริ่มอธิบายอีกครั้ง
"พ่อรู้ว่าแกหมายถึงอะไร แต่แกอย่าลืมสิว่าบริษัทที่แกบอกว่าเล็กน่ะ มันครอบครองอิทธิพลไปเกือบทั่วเกาหลีใต้แล้วนะ แล้วอีกอย่างสิ่งที่เราต้องการน่ะไม่ใช่แค่การขยายธุรกิจในใต้หวันเท่านั้น ในเกาหลีใต้ก็เป็นอีกที่ที่เราต้องทำธุรกิจด้วยให้ได้เพื่อวางรากฐานของบริษัทเราไม่ให้พวกกระตูลใหญ่ในจีนมันมารวบเอาไปหมดนะ แกลองคิดดูดีๆนะมาร์ค แกจะไม่ไปก็ได้แต่แกจะเสียผลประโยชน์ไปเพราะตอนนี้พวกตระกูลใหญ่ๆในจีนกำลังจ้องจะเอาผลประโยชน์จากเกาหลีใต้อยู่นะ" มาร์คที่ฟังคำอธิบายของพ่อเค้ากำลังคิดอย่างหนัก ถ้าเค้าไปเกาหลีใต้ตอนนี้เค้าจะเสียผลประโยชน์ในใต้หวัน แต่ถ้าเค้าไม่ไปเกาหลีใต้เค้าก็จะเสียผลประโยชน์ในด้านต่างประเทศทันที
"งั้นเอางี้นะครับ พ่อช่วยไปคุยกับบริษัทในใต้หวันให้ผมทีได้มั้ยครับ" ผู้นำตระกูลต้วนยิ้มออกมาทันทีหลังจากได้คำตอบจากลูกชายของตน
"ก็แค่นี้ แกไม่ต้องห่วงในใต้หวันหรอกเดี๋ยวพ่อดูแลให้เอง" มาร์คพยักหน้ารับ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาเลขาส่วนตัวของเค้า
"เจียโหย่วนายช่วยเตรียมที่พักในเกาหลีใหชั้นที แล้วก็ไฟล์บินด้วยนะ ชั้นจะบินพรุ่งนี้ขอเร็วที่สุด" มาร์คสั่งก่อนจะลุกขึ้นเพื่อกลับไปเตรียมตัว หันไปก้มหัวเคารพพ่อของเค้าเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปทันที

มาร์ค ต้วนต้องการเจอผู้นำบริษัทของตระกูลอิม
เค้าต้องการเจออิม แจบอม


    

   อิม แจบอมยิ้มเล็กน้อยหลังจากที่ได้คำตอบจากบริษัทในใต้หวัน บริษัทของตระกูลต้วนที่โด่งดัง เค้าไม่ต้องการพวกเอกสารไร้ประโยชน์พวกนี้หรอก เค้าแค่ต้องการคุยตัวต่อตัวเพื่อไม่ให้ทั้งทางเค้าและทางนั้นต้องมาเสียผลประโยชน์หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบไปแค่นั้นเอง แต่ดูท่าฝั่งนั้นคงจะหัวเสียไม่น้อยที่เค้ายื่นข้อเสนอแบบนี้ไป
"หึ เค้าตอบรับแล้วหรอถึงได้ยิ้มแบบนั้นออกมาน่ะอิม แจบอม" เสียงทุ้มหวานดังขึ้น แจงอมหันไปมองคนที่เดินเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเค้า ก่อนจะเอ่ยตอบออกไป
"ประตูก็มีนะครับคุณปาร์ค จินยอง เคาะก่อนก็ได้มั้ง"จินยองยิ้มออกมาทันทีที่ได้รับคำตอบจากคนตรงหน้า หยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจคำตำหนิของอีกคน ก่อนจะย้ายตัวมานั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับอีกคน
อิม แจบอมผู้นำตระกูลอิมในปัจจุบัน ร่างสูงโปร่งที่หล่อเหลาจนผู้คนพูดถึง ดวงตาเรียวคมฉบับคนเกาหลีแท้ๆในจะไฝแฝดคู่ที่อยู่บนเปลือกตาซ้ายที่เพิ่มเสน่ห์ของแจบอมเพิ่มไปอีก จมูก ริมฝีปากบางที่ไม่ค่อยยิ้มนั่นอีก พอมาอยู่บนโครงหน้าที่เหมือนพระเจ้าจงใจสร้างขึ้นให้อย่างลงตัวจนดูเพอร์เฟคไปหมด
แต่ความเพอร์เฟ็คนั่นแหละที่เค้าไม่ชอบทั้งสายตาของเพื่อนสนิทที่เค้าไม่เคยมองมันออกว่าคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา
"สรุปว่าไง เค้าตกลงจะมาคุยด้วยแล้วหรือไงถึงได้ทำหน้าแบบนั้นน่ะ"จินยองถามย้ำอีกครั้งนึง แต่คนข้างหน้าก็ไม่ตอบอะไรกลับมาเพียงแค่พยักหน้าแทน
"อือ นัดพรุ่งนี้ตอน1ทุ่มนายจะไปด้วยมั้ย" แจบอมเอ่ยปากถามจินยอง
"ไป จะไปช่วยคุ้มกันไง" จินยองพูดหยอกคนข้างหน้าเล่น แจบอมที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนี้ดูน่ารักดี ดีกว่าสีหน้านิ่งๆแบบปกติกับสีหน้าแบบที่เค้าไม่ชอบ
"อือ วันนี้ชั้นกลับเร็วนะ" จินยองทำหน้าแปลกใจทันที ปกติเห็นกลับตรงเวลาตลอดนี่
"ทำไมล่ะ ปกติเห็นกลับตามเวลา" จินยองพูดพร้อมจ้องใบหน้าหล่อของอีกคนอย่างคาดคั้น แจบอมมองกลับมานิ่งๆ เพียงชั่วครู่แววตาของอีกคนก็เปลี่ยนไป เป็นสายตาที่กำลังดึงดูดให้คนที่มองเข้าไปในตานั้นหลงใหล
ออกมาแล้วสินะ

   คนตรงหน้าจินยองตอนนี้กำลังยิ้มออกมา ไม่ใช่ยิ้มที่จริงใจแต่เป็นรอยยิ้มที่เค้ารู้จักมันดี มันคือรอยยิ้มที่น่ากลัวสำหรับเค้า มือเรียวของอีกคนไล้กรอบหน้าของจินยองลงมาช้าๆ ลงมาถึงลำคอ และค่อยไล่ไปจนถึงหัวไหล่ ปากบางเอ่ยพูดออกมา
"ถามทำไมล่ะ จะไปด้วยกันหรอจินยอง" จินยองกำลังข่มใจไม่ให้ตามน้ำคนข้างหน้าไปมือเรียวของแจบอมกำลังซุกซนไล่วนอยู่แถวๆหน้าอกของเค้า กลืนน้ำลายที่เหนียวคอลงไปอย่างยากลำบาก พอเห็นเค้าเป็นแบบนี้ดูเหมือนจะถูกใจแจบอมไม่น้อย ร่างสูงขยับจากที่นั่งบนเก้าอี้เปลี่ยนขึ้นมานั่งบนโต๊ะทำงานหันหน้าเข้าหาจินยองมือข้างนึงไล่วนอยู่แถวหน้าอกของจินยอง อีกข้างก็ค่อยๆซ้อนใบหน้าหล่อปนสวยของอีกคนให้เงยขึ้นมามองใบหน้าของตน มองลึกลงไปในดวงตากลมสวยที่ดูคล้ายแมวนั้น ราวกับจะค่อยๆดึงตัวตนของอีกคนที่ข่มเอาไว้ออกมา ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ๆจนปากบางอยู่ใกล้หูของอีกคนกระซิบบอกคำที่ตนเองต้องการเบาๆ
"นี่จินยองอ่า ไปต่อด้วยกันมั้ย?" ทันทีที่พูดจบร่างของแจบอมก็ลอยหวืดลงมาจากโต๊ะทันที ข้อมือเรียวถูกกำจนแน่นโดยอีกคนที่กำลังรีบเดินเพื่อออกไปจากห้องนี้ แจบอมหัวเราะเล็กน้อยราวกับถูกใจกับปฏิกิริยาของอีกคน 
เหยื่อติดกับแล้ว


   ทันทีที่มาถึงที่จอดรถจินยองไม่รอช้าผลักแจบอมเข้าไปในที่นั่งข้างคนขับก่อนที่ตัวเองจะเดินข้ามมาอีกฝั่งเพื่อขับรถออกไป แต่ยังไม่ทันได้สตาร์ทเครื่องปากบางของอีกคนก็โน้มเข้ามาประกบเข้ากับริมฝีปากเค้าทันที ลิ้นสองเกี่ยวหวัดเข้าหากันอย่างไม่ยอมแพ้กัน ใบหน้าที่เอียงองศาเข้าหากันอย่างไม่ติดขัด จินยองผลักอีกคนออกไปก่อนที่รีบสตาร์ทรถและขับออกไปทันที แจบอมที่นั่งอยู่ข้างๆเค้ากำลังทำเค้าปั่นป่วน ถึงจะรู้ว่าตัวตนแบบนี้จะมาให้เห็นบ่อยแค่ไหนแต่ยังไงเค้าก็ยังไม่ชินซักที มีของอีกคนกำลังเล่นสนุกกับร่างกายของเค้า จนเค้าต้องเอ่ยห้าม
"พอก่อนแจบอม ไม่ใช่ตอนนี้" แต่แจบอมกับไม่หยุด ปากบางพูดบางอย่างออกมา
"เรียกชั้นว่าเจบีก่อนสิ แล้วจะหยุด"ชื่ออีกชื่อนึงถูกนำมาเป็นข้อเสนอให้เค้าเหมืิอนทุกครั้งที่เป็นแบบนี้ จินยองถึงพูดออกไปเพื่อยุติการกระทำที่กำลังทำให้เค้าไม่มีสมาธิในการขับรถทันที
"โอเค เจบีนายหยุดก่อน รอให้ถึงคอนโดชั้นก่อนโอเคมั้ย" มือเรียวหยุดการกระทำทุกอย่างอัตโนมัติแล้วกลับไปนั่งที่ของตัวเองพร้อมฮัมเพลงไปเรื่อยๆ


   
   ปากของคนสองคนกำลังประกบจูบอย่างเร่าร้อนราวกับจะให้อีกคนละลายไปกับรสจูบที่มอบให้ เอียงองศารับใบหน้าได้เข้ากันดีจนแทบไม่มีเวลาได้หายใจ จินยองผลักอีกคนแบนกับกำแพงห้องแล้วมอบจูบให้อีกครั้งเลื่อนใบหน้าลงมาทำรอยรักที่ลำคอขาวของอีกคนทั้งสองข้าง มือทั้งสองช่วยกันปลดชุดทั้งของตัวเองและแจบอมออกเรื่อยจนในที่สุดก็เหลือแค่ร่างกายที่เปลือยเปล่าทั้งคู่ จินยองอุ้มอีกคนโดยที่เจบีเอาเท้ารัดไว้ที่เอวเค้าและมือเรียวโอบคอเค้าพร้อมซุกลงไปที่คอกดจูบเพื่อสร้างรอยรัก จินยองวางเจบีลงบนเตียงก่อนจะตามขึ้นไปมือข้างนึงไล้ผ่านจุดบนหน้าอกของอีกคนอย่างจงใจจนเจ้าตัวหลุดร้องออกมา
"อื้อออ จินยอง" จินยองกดจูบลงไปบนตุ่มสีชมพูทำวนไปทั้งสองข้างมือสองข้างค่อยๆแยกขาเรียวของเจบีออกจากกันแล้วแทรกตัวลงไป ค่อยๆส่งนิ้งเรียวเข้าไปในช่องทางของอีกคนเพื่อทำให้ชิน
"ไม่เอานิ้วจินยอง เอาของนายเข้ามาได้แล้ว" จินยองทำตามที่อีกคนบอกทันทีมือเรียวรูดรั้งแก่นกายของตนสองสามทีก่อนจะดันเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มของอีกคนจนสุดความยาว ถึงแม้จะถูกใช้งานเกือบทุกวันแต่ช่องทางของเจบีก็ยังตอดรัดเค้าได้ดีจนแทบจนปลดปล่อยออกมา มือเรียวของเจบียื่นมาคล้องคอเค้าไว้แล้วดึงเค้าไปประกบจูบ ก่อนที่จินยองจะเริ่มขยับสะโพกของตนไปตามจังหวะเรื่อยๆ
"อ้ะ เร็ว เร็วอีกจินยอง อื้อออ" จินยองเพิ่มจังหวะตามที่อีกคนขอทันที ปากบางกำลังครางชื่อเค้าออกมาอย่างสุขสม
"อื้อ จะเจบีชั้นปล่อยในนะ" เอ่ยบอกร่างที่กำลังสั่นคลอนไปตามจังหวะที่เค้ากระแทกสะโพกลงไป เจบีพยักหน้าตอบตาเรียวหลับพริ้ม ปากบางที่กำลังครางอย่างสุขสม ทุกอย่างกำลังทำให้เค้าของเจบีกำลังทำให้เค้าหลงใหลมากขึ้นเรื่อยๆ พอใกล้จะปลดปล่อยจินยองจึงเร่งความเร็วขึ้นไปอีกเรื่อยๆจนทั้งสองปลดปล่อยออกมา
"อ้ะ อาาาาา"ร่างกายของเจบีกระตุกเล็กน้อยหน้าท้องที่มีลอนกล้ามบางเต็มไปด้วยคราบสีขาวขุ่นที่เจ้าตัวปลดปล่อยออกมา จินยองมองคนที่อยู่ใต้ร่าง ผมที่เคยเซ็ตขึ้นไปอย่างเรียบร้อยตอนนี้กลับปรกลงมาบนใบหน้าของเจ้าตัวจนทำให้ดูเด็กขึ้น ตาเรียวที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่กำลังเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ปากบางๆที่กำลังกอบโกยอากาศเข้าไป ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยรัก อีกทั้งช่องทางที่กำลังตอดรัดเค้าอยู่เรื่อยๆกำลังทำให้จินยองมีอารมณ์อีกครั้ง จินยองดึงร่างของเจบีขึ้นมานั่งบนตักทั้งๆที่แก่นกายของตนยังคาอยู่ มองหน้าอีกคนเล็กน้อย เจบีมองกลับพร้อมกับเริ่มขยับสะโพกของตัวเองมือเรียวคล้องเข้าที่คอของอีกคน จินยองที่ทำหน้าเพียงรับจูบและสวนสะโพกขึ้นไปเพื่อเพิ่มจังหวะให้อีกคนเรื่อยๆจนทั้งสองปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง และเริ่มเกมส์บนเตียงไปเรื่อยๆจนกว่าทั้งสองจะพอใจ

บุคลิกที่ไม่เหมือนกันของแจบอม

กำลังทำให้จินยองหลงใหลอย่างโงหัวไม่ขึ้น

   
   เปลือกตาเรียวค่อยๆเปิดขึ้นก่อนที่จะหรี่ตาลงเพราะแสงแดดที่ส่องเข้ามาจากหน้าต่างบานใหญ่ มองหาคนข้างๆก่อนที่จะพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงคิงไซส์นี้คนเดียว ขยับตัวเพียงเล็กน้อยน้ำขุ่นๆที่อีกคนปล่อยไว้ในตัวก็ไหลลงมาตามขา แจบอมร้องจิ๊อย่างขัดใจก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบผ้าคลุมเดินเข้าไปอาบน้ำอย่างติดๆขัด หลังจากชำระร่างกายเอาคราบต่างๆออกจากตัวหมดก็เดินออกมาหยิบชุดที่จินยองเอาวางไว้ให้ เสื้อเชิร์ตแบบพอดีตัวกับกางเกงบอกเซอร์สีเทาที่ดูแล้วใส่สบาย แจบอมสวมแล้วเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อหาอะไรกิน
"ทำไรกิน จินยอง" ทันทีที่เดินมาถึงครัวก็เอ่ยถามอีกคนที่กำลังง่วงกับการทำอะไรซักอย่างอยู่บนเตาแก๊ส จินยองหยุดคนซุปก่อนจะหันมาตอบอีกคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าว
"เคี่ยวซุปกับไก่อยู่ นั่งดีๆหน่อยแจบอม" ดุแจบอมเล็กน้อยเพราะเจ้าตัวนั่งยกขาขึ้นมาสองข้างจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน แจบอมยักไหล่แล้วลดขาลงมานั่งขัดสมาธิแทน
"จะว่าไปวันนี้ต้องออกไปคุยงานตอนทุ่มนึงนะ อย่าลืม"จินยองเอ่ยเตือนอีกคนระหว่างที่นำถ้วยซุปกับข้าวสวยร้อนๆไปวางให้อีกคนบนโต๊ะ แจบอมพยักหน้าตอบเค้าพร้อมเริ่มกินอาหารตรงหน้า
"เสื้อผ้านายชั้นส่งซักไปแล้วนะซักบ่ายๆก็คงได้"แจบอมพยักอีกครั้งอย่างเข้าใจ จินยองยิ้มรับก่อนจะค่อยๆลูบหัวอีกคนอย่างเบามือ แล้วก็ได้สายตาขุ่นๆจากแจบอมส่งมาให้อีกครั้ง จินยองหัวเราะอย่างชอบใจ
"นายนี่น้า ทำสายตาแบบนั้นไปชั้นก็ไม่กลัวหรอก เหมือนแมวขู่ดีนะ" จินยองพูดล้อแจบอมอีกครั้งพร้อยขยับตัวเข้าไปไกล้แล้วลูบหัวอีกคนเล่นไปเรื่อยๆ แจบอมส่งสายตาไม่พอใจให้จินยองอีกครั้งนึงก่อนจะหยุดกินแล้วหันมาจับมืออีกคนออกจากหัวตัวเอง
"พอแล้ว ลูบมากๆจะเดี๋ยวจะหลับเอา"
"ก็นอนไปสิ เดี๋ยวปลุกเอง"แจบอมพยักหน้ารับอีกครั้งก่อนจะลากข้อมือจินยองมาที่โซฟากลางห้องดึงจินยองให้นั่งลงก่อนที่ตัวเองจะล้มตัวนอนทับบนหน้าตัก จับมือจินยองมาวางบนหัวเหมือนออกคำสั่งกลายๆว่าให้ลูบให้ จินยองยิ้มให้กับความเด็กของอีกคน มือเรียวค่อยๆลูบหัวของแจบอมจนเจ้าตัวหลับอีกครั้ง หมดคราบผู้นำของตระกูลอิมแล้ว

"เหมือนแมวเลยนะแจบอม" ลูบจนแน่ใจว่าอีกคนหลับไปเรียบร้อยแล้วจึงค่อยลุกขึ้นพร้อมหาหมอนมารองไม่ให้แจบอมเมื่อยคอ ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อนำที่นอนออกมาซักกำจัดคราบสกปรกจากเกมส์รักเมื่อคืน


กลับไปคอมเม้นท์ติชมให้เราด้วยนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น